ทฤษฎีการค้าระหว่างประเทศ
ทฤษฎีการค้าระหว่างประเทศ
1. ลัทธิพาณิชย์นิยม หรือ การค้านิยม "ทองเป็นตัวแทนของความมั่งคั่ง" การสร้างความเข็มแข็งทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ โดยการสนับสนุนจากภาครัฐ ให้ผู้ผลิตภายในประเทศส่งออกสินค้าให้มากที่สุด และ นำเข้าสินค้าจากต่าประเทศให้น้อย
โทมัส มุน - ประเทศจะมั่งคั่งได้ก็ต่อเมื่อ ต้องส่งออกให้มากที่สุดและนำเข้าให้น้อยที่สุด และจากการช่วยเหลือของรัฐ (Zero Sungame)
2. ทฤษฎีการได้เปรียบโดยสมบูรณ์ "อดัม สมิธ" หลักการจัดการแบ่งงานกันตามความชำนาญ ความได้เปรียบในการผลิตสินค้าที่ประเทศหนึ่ง สามารถผลิตสินค้าได้เท่ากับที่ประเทศอื่นผลิตได้ โดยใช้ปัจจัยการผลิตที่น้อยกว่า หรือ ปัจจัยการผลิตเท่ากัน แต่สามารถผลิตสินค้าได้มากว่า ซึ่งชี้ให้เห็นว่าประเทศควรเลือกสินค้าที่สามารถผลิตแล้วได้เปรียบ(โดยอาจารย์ยกตัวอย่างประกอบเพื่อให้เข้าใจมากขึ้น)
3. ทฤษฎีความได้เปรียบเทียบ "เดวิท ริคาโด" ประเทศที่มีความได้เปรียบในสินค้าชนิดใดควรทำการผลิตสินค้าชิ้นนั้น และซื้อสินค้าที่ตนไม่มีความชำนาญ (ถ้ามึความสามารถหลายด้าน ก็เลือกด้านที่ชำนาญกว่า)
4. ทฤษฎีของ แฮกเกอร์ ลอแลง หลักการสำคัญ คือ ความแตกต่างทางการผลิตนั้นเกิดจากประเพณีที่แตกต่างกัน ความแตกต่างของต้นทุนการผลิต ปัจจัยในการผลิต ดังนั้นประเทศหนึ่งๆ ควรจะผลิตสินค้าที่ใช้ทรัพยากรในประเทศ และนำเข้าสินค้าที่ไม่สามารถผลิตได้ในประเทศเนื่องจากขาดทรัพยากร
5. ทฤษฎีของผลิตภัณฑ์ เชื่อว่าสินค้าใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา จะมีราคาสูง
องค์ประกอบที่ทำให้เกิดความได้เปรียบทางการแข่งขัน 4 ประการ
1. ความพร้อมของประเทศ
2. เงื่อนไขความต้องการของสินค้า
3. อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องสนับสนุน
4. กลยุทธ์ โครงสร้าง และการแข่งขันทางธุรกิจ
เป็นสัปดาห์สุดท้ายของเนื้อหาการสอบปลายภาค อยากให้อาจารย์อธิบายถึงแนวข้อสอบมากขึ้นเนื่องจากข้อสอบเป็นข้อเขียนค่ะ
Globalization โลกาภิวัตน์ กับความเป็นสากล
แนวโน้มการปรับเข้าหากันของระบบเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ตลอดจนการดำเนินชีวิตของประชาชนในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ส่งผลทำให้ประชาชนในประเทศต่างๆ มีพฤติกรรมคล้ายกัน ภายใต้ความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนาและวัฒนธรรม
ปัจจัยที่สนับสนุนให้เกิดความเป็นสากล
1. การพัฒนาทางด้านการคมนาคม และการสื่อสาร
2. แนวโน้มตลาดสากล คือ แนวโน้มที่ผู้บริโภคในประเทศต่างๆ นิยมบริโภคสินค้าหรือบริการเหมือน ๆ กัน
3. แนวโน้มผลิตภัณฑ์สากล หมายถึง สินค้าหรือบริการที่ถูกพัฒนาให้เป็นที่ยอมรับทั่วโลก เช่น Apple
4. แนวโน้มผลิตแบบสากล เช่น คอมพิวเตอร์ อาศัยชิ้นส่วนจากหลายประเทศ
จาการสอนโดยการยกตัวอย่างประกอบ เพื่อให้เข้าใจได้ดียิ่งขึ้น ยังงงๆ
กลยุทธ์ในการบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ
1. การจัดการเชิงกลยุทธ์
1.1 วิสันทัศน์
1.2 ภารกิจ
1.3 เป้าหมายของวัตุประสงค์
2. การวิเคราะห์สภาพแวดล้อม
3. การวางแผนกลยุทธ์
4. กระบวนการจัดการเชิงกลยุทธ์ของธุรกิจระหว่างประเทศ
5. การวิเคราะห์กลยุทธ์ในระดับนานาชาติ
5.1 การกำหนดกลยุทธ์ระดับบริษัท
5.2 การกำหนดกลยุทธ์ระดับธุรกิจ
5.3 การดำเนินกลยุทธ์ระดับหน้าที่
ความรู้เรื่องธุรกิจระหว่างประเทศ
วันนี้เหนื่อยมากค่ะ เรียนทั้งสองวิทยาเขตเลยขอตัวไปพักผ่อนก่อนดีกว่า โดยหวังว่า บทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านน๊ะคะ
อ้างอิง : http://news.sanook.com/economic
http://www.sme.go.th/
สภาพแวดล้อมในการบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ
1. P Politics & Laws การเมืองและกฏหมาย
สภาพแวดล้อมทางการเมืองและกฏหมาย เป็นปัจจัยที่บริษัทข้ามชาติคำนึงถึง ความเสี่ยงทางการเมืองพฤติกรรมทางการเมืองทั้งภายในประเทศและต่างประเทศที่บริษัทเข้าไปลงทุน พิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศ ระบบการเมือง และระบกฏหมาย เพราะต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่สนใจของรัฐบาลในแต่ละประเทศ เช่น การที่ นายกฯ ไปประชุมเพื่อชักชวนให้เข้ามาลงทุนในประเทศ
กฏหมายสำคัญที่มีบทบาทสูงต่อการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศ
กฏหมายที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งแต่ละประเทศจะมีความเข้มงวดของกฏหมายที่แตกต่างกัน เช่นถ้าสินค้าไทยจดทะเบียนลิขสิทธ์เรียบร้อยแล้วส่งไปขายที่ประเทศที่มีการละเมิดอยู่มาก ทำให้สินค้าขายได้ในระยะสั้น ยอดขายสินค้าลดลงเร็ว

1.ปลอมแปลง(เหมือนจริง)
2.ปรับเครื่องหมาย
3.ลักลอบผลิต
2. E Economics สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ
สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมีส่วนสนับสนุนหรือเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทข้ามชาติ ในขณะที่ความสำเร็จของบริษัทข้ามชาติก็มีผลต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศที่ได้รับการลงทุน โดยอาจารย์ยกตัวอย่างที่ Disney ไปเปิดที่ฮ่องกง
-ระบบเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ
-การปรับองค์การของรัฐให้เป็นเอกชน การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาคต่าง ๆ ขอแต่ละกลุ่มเพื่อให้เกิดความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
South East Asia 10 ประเทศ 1. ไทย 2. ลาว 3. พม่า 4. เวียดนาม 5. กัมพูชา 6. มาเลเซีย 7. ฟิลิปปินส์ 8. อินโดนีเซีย 9. สิงค์โปร 10. บรูไน
3. S Social & Culture สังคมและวัฒนธรรม แบบแผนการดำเนินชีวิต วิถีการดำเนินชีวิต ของคนในแต่ละชาติ โดยมีประเทศเป็นตัวแบ่งแยกวัฒนธรรม คนในประเทศเดียวอาจจะมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไป สภาพสังคมที่แตกต่าง มาจากวัฒนธรรมที่แตกต่าง
-อายุที่เริ่มมีวัฒนธรรมเกิดขึ้น คือ 10 ขวบ คือจะเริ่มมีความคิด ความรู้ ความเชื่อเกิดขึ้น
การเกิดขึ้นของวัฒนธรรม 2 สาเหตุ
1. การเลือกเอง เช่นการเลือกที่จะนับถือศาสนาคริสตร์ที่ต่างจากพ่อแม่
2. การเป็นผู้ถูกเลือกคือ ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกเป็นการกำหนดโดยผู้อื่นเช่น การใช้ภาษาไทยตามพ่อแม่สถานะทางสังคม 2 สาเหตุ
1.ติดตัวมาแต่กำเนิด : สถาบันพระมหากษัตริย์
2.เราเป็นผู้กำหนดเอง : ความสำเร็จในชีวิต ความรวย ความเก่งฯCreolization การกลืนกินชาติอื่นด้วยวัฒนธรรมของคน หมายถึง การเผยแพร่วัฒนธรรมของตนให้เป็นที่ยอมรับ จนกลายเป็นวัฒนธรรมสากล โดยใช้สื่อประเทศต่าง ในการประชาสัมพันธ์ ประเทศแรกคือ อเมริกา ต่อมาคือ ประเทศ ญี่ปุ่น และในปัจจุบันประเทศเกาหลีใต้ ภาษาสากล-ภาษาอังกฤษ เป็นต้น
4. T Technology เทคโนโลยี การนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้กับกิจการของตนจะได้เปรียบกิจการที่ไม่สามารถนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ได้ซึ่งประเทศที่สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ทันสมัย จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมาเสมอ ทำให้ยิ่งทิ้งห่างประเทศที่ไม่สามารถประยุกต์เทคโนโลยีที่ทันสมัยได้
BRIC ประเทศที่กำลังเติบโตในปัจจุบัน ดังนี้ Brazil / Russia / India / China
